วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทำนายดวงประจำวันเกิด

ทำนายดวงประจำวันเกิด

ทำนายดวงคนเกิดวันอาทิตย์ คนเกิดวันนี้ต้องเรียกว่าเสียชีพอย่าเสียเกียรติ ใจใหญ่หน้าใหญ่ โกรธง่ายหายเร็ว (น่าคบ) ใจอ่อน พูดง่าย มีความทะเยอทะยาน ไฝ่สูง รักความก้าวหน้า ชอบการแข่งขันเพื่อหาชัยชนะ และข้าก็ต้องชนะด้วยนะ ไม่ว่าจะการเรียน กีฬา หรือว่าความรัก อารมณ์เปลี่ยนเปลี่ยนแปลงเร็ว บางครั้งเลยดูว่าเหมือนจะขาดเหตุผล แต่ก็ชอบเป็นผู้นำ และมักจะได้เป็นเสียด้วย อาจเป็นหัวหน้าครอบครัว ชุมชน หรืออาจเป็นผู้นำคู่ครองก็ได้ บุคลิกภาพต้องดูดี มีสง่าราศีตลอด และที่สำคัญคนเกิดวันอาทิตย์มักเป็นคนเจ้าชูแบบมีชั้นเชิง ไม่ใช่ใครก็ได้แบบวันอังคาร คนวันอาทิตย์กับวันอังคารจึงไม่ค่อยถูกชะตากัน และชอบแย่งแฟนกันอีกต่างหาก สังเกตดูดี ๆ นะ

คนเกิดวันอาทิตย์ถ้าอยากเสริมดวงชะตา ต้องจัดบ้านให้ดูว่าเป็นบ้านที่ใหญ่โตมโหฬาร เปิดไฟให้สว่างไสวในตอนกลางคืน บ้านคนเกิดวันอาทิตย์ถ้าขี้เหนียวค่าไฟ ดวงก็เหมือนพระอาทิตย์อับแสง ทำบุญด้วยการเติมน้ำมันตะเกียง ค่าไฟ หลอดไฟ เทียน หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานที่จะให้แสงสว่าง จะช่วยเสริมดวงชะตาให้รุ่งโรจน์ชัชวาลเหมือนสุริยันต์ตอนเที่ยงวันไม่มีผิด
อาชีพของคนวันอาทิตย์ ทำได้หลายอย่าง เพราะส่วนใหญ่มักเป็นคนเรียนเก่ง หรือเอาใจใส่ต่อการเรียนดี เรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องเกียรติยศต้องมาก่อน ความรัก หรือความสุนทรีย์เสมอ คนวันอาทิตย์ทำอะไรมักถูกใจผู้ใหญ่ หรือครูบาอาจารย์เสมอ แต่บางครั้งอาจไม่ทันอกทันใจวัยรุ่นหรือคนวัยเดียวกันก็ได้ อาชีพนักปกครองทุกสาขาอาชีพเหมาะมาก ทั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ นักการเมือง ผู้บริหารทุกหน่วยงาน ข้าราชการทุกประเภท ช่างไฟฟ้า วิทยุ โทรทัศน์ ขายเครื่องไฟฟ้า หรือเครื่องมือสื่อสารได้ทุกชนิด ขายเครื่องประดับประเภทมีแสงวูบวาบ ดีมาก ขายเสื้อผ้าก็ต้องติดเพชร พลอยให้ดูแสงแวววาวระยับไปทั้งตัวจะรุ่งมาก เพราะฉะนั้นเครื่องแต่งกายของคุณก็ต้องให้แจ่ม เข้าไว้จะได้เสริมโชค หรือสีออกแดง ส้ม ก็สีพระอาทิตย์นั้นแหละ คุณมองว่ามีสีอะไรก็ใส่ได้หมด รับรองรวยแน่ สมหวังอย่างที่ใจปรารถนาแน่นอน



ทำนายดวงคนเกิดวันจันทร์ คนเกิดวันนี้มักเป็นคนที่มีบุคลิคดีคืออ่อนหวาน สุภาพ อ่อนโยน รักสวยรักงาม แต่ภายใต้จิตใจที่มักจะหวั่นไหวง่าย ช่างคิด ช่างฝัน (คือคิดถึงเรื่องสบาย เรื่องความสวยความงาม) คือจะทำทุกอย่างขอให้ฉันได้ดูดีไว้ก่อน ถึงขนาดไปหยิบยืนเงินคนอื่อนมาเพ่ือประทินโฉมก็ยอมว่างั้นเถอะ 
จึงส่งผลให้คนวันจันทร์เป็นคนมีเสน่ห์ ดึงดูดใจผู้ที่ได้พบเห็น หากใครที่เกิดวันจันทร์ลองสำรวจตัวเองว่าเป็นผุ้ที่สามารถดึงดูดใจคนอื่นได้จริงหรือเปล่า หากไม่ใช่ก็ต้องปรับปรุงบุคลิกภาพอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สอดคล้องกับดวงชะตา แล้วคุณก็จะมีแต่เฮงกับเฮง
คนวันจันทร์มักมีความสามารถในการโปรยเสน่ห์ ให้คนอื่นหลงไบล แอบมีมายาจริตและชอบทางกามารมณ์แต่ก็ยังแพ้คนวันศุกร์อยู่ดีนะ ว้า!!! แต่อย่าไปสู้เขาเลยเรื่องนี้สู้เรื่องอื่นดีกว่าเนาะ
สีและอัญมณีเสริมดวงชะตา ควรเป็น เครื่องประดับ หรือของใช้ที่มีสี ขาว ขาวนวล เคร่ืองเงิน เพชรพลอย ไข่มุก
อาชีพของคนวันจันทร์ ที่เสริมดวงชะตา คือ อาชีพที่เป็นสถานที่พักผ่อน หรือคลายอารมณ์ เช่น โรงละคร ร้านอาหาร สถานที่ติดกับน้ำ ท่าเรือ ร้านค้าเครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย โรงพยาบาลหญิง น้ำดื่ม น้ำหวานสารพัดชนิด การเดินเรือ ครูสอนว่ายน้ำ หรืออะไรก็ตามที่มีคำว่าน้ำติดจะดีมาก แต่ต้ำเดือด ๆ ร้อน ๆ ไม่ดีนะอย่าลงไปเล่นก็แล้วกัน เช่น ลงไปแช่ในกะทะทองแดงนี้ก็ไม่เหมาะนะจ๊ะ อ้อ ลืมบอกไปว่าอาชีพบริการทุกชนิดด้วยนะจ๊ะ ที่ไม่ละบากมากเกินไปนะ เพราะถ้าลำบากมากขอบอกไว้ก่อนเลยว่า คนวันจันทร์จะบอกศาลาแน่นอนค่ะ
ขออวยพรให้คนที่เกิดวันจันทร์โชคดีตลอดไป มีแฟนหล่อ ๆ รวย สวย ๆ ด้วยนะคะ


ทำนายดวงคนเกิดวันอังคาร คนเกิดวันอังคารเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม เพราะฉะนั้นฆเรื่องอารมณ์ และเรื่องปากกล้าจึงยกให้เป็นหนึ่ง หากคุณไม่อยากมีปัญหาก็อย่าไปยุ่งกับคนที่เกิดวันนี้ เพราะขี้หงุดหงิด โมโหร้าย เสียงดัง ใจนักเลง ดื้อดึง ขาดความยั้งคิด ใจใหญ่ แต่ข้อดีก็มีมากนะคะ เช่นขยันมาก กระตือรือร้น กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ว่องไว มีทิฐิมานะ จึงเหมาะที่จะประกอบอาชีพ ทหาร ตำรวจ นักเลงโต เพชณฆาต คนฆ่า
สัตว์ ช่าง ช่างทำเหล็ก ช่างรถ ช่างทำอาวุธ ช่างตัดผม ช่างเคร่ืองยนต์ กลไกทุกชนิด แพทย์ผ่าตัด ทันตแพทย์
เรื่องความรัก คนวันอังคารมักเป็นคนเจ้าชู้ ประเภทซาดิส
ลูกเขาเมียใครถ้าฉันอยากเป็นต้องเอาไว้ก่อน อ่ะ ๆ อย่าเพิ่งเถียงว่าไม่ใช่ ไม่เป็นความจริง ฉันไม่เจ้าชู้ ฉันเลือกนะ ไม่เคยทำผิดศีลธรรม ซึ่งแม่กำลังจะบอกว่าถ้าไม่เป็นเช่นนั้นนับเป็นเรื่องดี เราต้องรู้จักเอาชนะดวงชะตา ถึงจะเรียกว่า เจ๋ง ว่าดีแท้ ขออนุโมทนา ถ้าอยากมีแฟนแล้วมีความสุขขอให้เลือกคบกับคนวันศุกร์นะ เขาขากันได้ดีมาก รองลงมาก็วันจันทร์ หรือถ้าไม่มีใครจริง ๆ ก็คนวันอังคารด้วยกันนั้นแหละ น่าจะเข้าใจกันดี
ขออวยพรให้คนเกิดวันอังคารจังประสบความสำเร็จในชีวิต ด้วยความขยันหมั่นเพียรเอาจริงเอาจังในชีวิตของคุณตลอดไปนะคะ


ทำนายดวงคนเกิดวันพุธ กระเทยตัวจริง ทอมของแท้ ต้องคนเกิดวันพุธนี้แหละค่ะ อ้อไม่ใช่ว่าเกิดวันอื่นจะเป็นกระเทย หรือทอมไม่ได้นะยะ แต่พอโตขึ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นเพศเดิม แต่ถ้าเกิดวันพุธนะมักเป็นของแท้ จะกระเทยหรือทอมก็เป็นคนดี ที่น่ารักน่าคบได้นะคะ ถ้าทำตัวให้เป็นประโยชน์จริงไหมค่ะ 
คนเกิดวันพุธเป็นเทพเจ้าแห่งการค้าหรือเป็นนักธุรกิจ เรียกว่ามีหัวการค้าขั้นเทพเลยทีเดียว แถมยังมีสมองระดับนักปราชญ์ เป็นนักพูด ชนิดกล่อมลิงหลับมาแล้ว ประสาอะไรที่จะกล่อมคนธรรมดาสามัญให้รักให้หลงจริงไหม แต่ส่วนใหญ่จะกล่อมให้เขาซื้อของ หรือทำธุรกิจ การงานร่วมกับตัวเองมากกว่า ก็บอกแล้วไงว่าคนวันพุธนะหัวการค้า จึงเหมาะที่่จะทำอาชีพ เกี่ยวกับการค้าขาย การโฆษณา เลขานุการ การประชาสัมพันธ์ นักปกฐกถา นักจัดรายการ ที่เขาเรียกว่าดีเจ นั้นแหละ เป็นนายหน้า งานเกี่ยวกับเอกสารสิ่งพิมพ์ ช่างพิมพ์ ขายหรือจัดจำหน่วยเกี่ยวกับเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด รวมไปถึงดาวเทียมด้วยนะ มีขายหรือเปล่าถ้ามีคนวัน พุธขายได้แน่นอน เป็นครู ก็บอกแล้วไงว่าหัวสมองขั้นเทพ แต่ถ้าคนเกิดวันพุธยังเรียนไม่เก่งต้องขยันอ่านขยันเรียนให้มาก ๆ จะได้เก่งแล้วจะส่งเสริมดวงชะตาของคุณให้เจริญรุ่งโรจน์ยิ่ง ๆ ขึ้น
จิตใจของคนวันพุธ มักอ่อนโยน สงบเยือกเย็น แต่เปลี่ยนแปลงง่าย เขาเป็นธาตุปรอทนะคุณ อาจไม่ค่อยกระตือรือร้น เชื่อคนง่าย ชอบเสียงเพลง และธรรมชาติที่มีองค์ประกอบของน้ำเป็นส่วนใหญ่
หากจะเสริมดวงชะตาสำหรับคนเกิดวันนี้ให้ทำบุญด้วย หนังสือสวดมนต์ หนังสือธรรมมะ หนังสือวิชาการ ตำรับตำราเรียนจะดีมาก หรือทำบุญด้วยอะไรก็ได้ทีจะเป็นการส่งเสริมปัญญาให้กับคนอื่นคุณจะรุ่งแน่นอน



ทำนายนิสัย ของผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี 
คนเกิดวันนี้ ที่เห็นชัดเจนมักเป็นคนรักการเรียน การอ่านมาก อาจจะไม่ใช่อ่านผลงานทางวิชาการอย่างเดียวนะคะ หมายถึงอ่านหนังสือธรรม หรืออธรรมก็ได้เช่นกัน ชอบทำบูญ สวดมนตร์ ไหว้พระ ถ้าไม่ชอบทำบุญไหว้พระ ก็จะเป็นพวกชอบสั่ง ชอบสอน ขอให้ได้สอนคนอื่นไว้ก่อนเป็นสบายใจ ถ้าได้เป็นครูคงจะดีมาก ถ้าไม่ชอบสอนคนอื่น จะจัดเป็นพวกชอบน้อยอกน้อยใจเก่ง เก็บเนื้อเก็บตัว เข้าข่ายจำศีล เลยละ
ชอบให้คนอื่นเอาอกเอาใจ ให้คนอื่นนอบน้อมศรัทธาตนเองคล้ายพระสงฆ์ แต่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะศรัทธาใคร ยกเว้นคนนั้นเจ๋งจริง ๆ ถึงจะยกมือไหว้ หรือได้รับการยอมรับจากคนเกิดวันนี้
อาจชอบทำบุญกับพระกับเจ้านะ แต่กับคนด้วยกันเอง แอบเป็นคนขี้เหนียวตัวยงเลยทีเดียว อ้อข้อดีอีกอย่างของคนเกิดวันนี้ คือจะไม่ยอมทำอะไรที่ผิดศีลธรรม หรืออะไรที่ชั่ว ๆ เกี่ยวกับศาสนาเขาจะไม่เอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทั้ง ๆ ที่บางทีเขาอาจไม่ใช่คนเข้าวัดฟังธรรมเลยก็ตาม เรียกว่าอดีตชาติเคยเป็นพระฤษีมาก่อนบำเพ็ญเพียรบำเพ็ญพรตมานานเลยไม่อยากเสื่อมจนถึงชาติปัจจุบัน
ถ้าคุณอยากเอาชนะใจคนเกิดวันพฤหัสฯ ก็จงทำตัวเหมือนโยมปฏิบัติต่อพระ คือต้องพินอบพิเทา คารวะกราบกราน มีอะไรก็ต้องจัดถวาย โดยไม่ต้องหวังสิ่งตอบแทน จนกว่าพระท่านจะโปรดเอง เราถึงจะได้ ต้องให้เกียรติท่านประดุจ ท่านผู้นี้เป็นครูหรือเป็นพระครูของเรา และอย่าริอ่านพูดคำหยาบคายกับท่าน แต่ท่านพูดกับเราได้นะ ก็ขอให้โยมทั้งหลายโปรดทำใจ เพราะจริง ๆ แล้ว การคบกับคนเกิดวันนี้ ก็อาจจะดีกว่าอีกหลาย ๆวัน เช่น คนเกิดวันอังคารอาจจะหึก ถึก เถือนก็ได้  
คนเกิดวันพฤหัส คบกับใครแล้วดี ก็คบกับคนวันวันจันทร์ เรียกว่าอาจมีอาการคับอกคับใจ (แน่นอก) กันบ้างแต่ก็ตัดกันไม่ตายขายไม่ขาด ต้องดูแลกันสืบไป ถ้าคบกับวันศุกร์ก็ถือว่าสมศักดิ์ศรี เป็นคู่มิตรที่เหมาะสม กับวันพุธก็เป็นคู่นักวิชาการจะชวนกันเรียน พากันไปในทางเป็นบัณฑิต แต่ อาจแย่งกันพูด หรือแย่งกันสังสอนกันและกันก็ได้ถ้าคบกับวันเสาร์ก็ประมาณว่าคู่พระคู่โจร แต่พระอาจแค่เพียงว่ากล่าวตักเตือนโจร โจรก็ไม่กล้าฆ่าพระเพราะกลัวบาป ก็เลยอยู่กันยืด ถ้าคบกับวันอาทิตย์เรียกว่าถูกอกถูกใจกันเป็นพิเศษ ทำอะไรเป็นถูกตากรรมการไปเสียหมด แต่วันอาทิตย์ต้องเป็นฝ่ายยอมให้นะ แบบลูกศิษย์ต้องยอมครูบาอาจารย์นะคะ
อาชีพของคนเกิดวันพฤหัส ที่เหมาะมากก็คือเป็นครู แพทย์
ทั้งแผนปัจจุบัน และแผนโบราณ เภสัชกร หมดดู อาชีพเกี่ยวกับการทำบุญสุนทาน ผู้พิพากษา ทนายความ หรืออาชีพอื่น ๆ ที่ต้องการความเชื่อถือสูง เช่นนักการทูต นักบิน ได้ด้วยนะ
ที่ทำนายมาคนเกิดวันพฤหัสบางท่านอาจเถียงว่าไม่ใช่ ขอตอบว่าอาจจะจริงค่ะ เพราะการพยากรณ์นี้เป็นภาพรวม ถ้าจะให้ถูกกับตัวท่านจริง ๆต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นช่วยในการพยากรณ์เช่นวันเดือนปีเกิดเวลาเกิด สถานที่เกิด ลายมือ โหงวเฮ้ง การเก็บใบไม้มาเสี่ยงทาย รวมถึงการดูด้วยไพ่ ชนิดต่าง ๆ ถ้าใครต้องการดูดวงแบบพิสดาร (ละเอียดยิบ)ต้องดูเป็นการส่วนตัวซึ่งต้องมีการจองคิวและนัดหมายเวลาที่แน่นอนอีกครั้งหนึ่งนะค

ทำนายดวงคนเกิดวันศุกร์ เธอและเขาต่างก็เป็นเทพเจ้าแห่งความรักความสมหวัง ความพึงพอใจ ความสวยงามระดับเทพบุตร เทพธิดา ความศิวิไลซ์ ความหรูหราฟุ่มเฟือย ความเจริญท างโลก ทรัพย์สมบัติ เงินทอง ของใช้ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแบบราชา กิเลส ตัณหา กามารมย์ รวมถึงอารมย์ศิลปิน อารมย์สุนทรี จึงมีในคนที่เกิดวันศุกร์มาก ต้องการแต่งตัวให้สวยงามเด่นกว่าใคร บ้านก็ต้องหรูเลิศ ประดับไฟสีเหลือง ๆ อาหารก็ต้องระดับภัตคาร ถ้าเป็นปลาร้าก็ต้องทรงเครื่อง จะมาปลาร้าดิบเหม็น ๆ นะไม่มีวันเอาเข้าปากแน่นอน
อาชีพที่เหมาะสม จึงควรเป็ดารา นักร้อง ศิลปิน หรือเกี่ยวกับความสวยความงาม เครื่องประดับล้ำค่า เพชรพลอย นักดนตรี นางแบบ ช่างภาพ วาดภาพสวยงาม หรืออะไรที่อยู่ในโลกโลกียะ จะเหมาะสมมาก อ้อเกี่ยวกับการเงินการธนาคาร ด้วยนะ เลขานุการ ดอกไม้ประดับตกแต่ง พันธุ์ดอกไม้ พนักงานสถานบันเทิง เจ้าของสถานบันเทิงทุกชนิด ร้านอาหารที่มีนักร้องดนตรีบรรเลง สปา อาบอบนวด แพทย์แผนไทย จีน ยาเสริมความงาม เครื่องสำอาง ร้านเสริมสวย เขาและเธอจะทำได้ยอดเยี่ยม
คนเกิดวันนี้ มักมีความรื่นเริงบันเทิงใจ ยินดีในโลกียะทั้งหลายซึ่งก็เป็นธรรมดาของมนุษย์ แต่คนวันนี้จะชอบเรื่องความสุขความสบาย เจ้าชู้ และมีหัวใจปรารถนาในรักแรงเป็นพิเศษเท่าที่แม่เห็นมาคนเกิดวันศุกร์มักได้อะไรมาอย่างสบาย ๆ ง่าย ๆ มีสามีสามีก็รักก็หลง หาอะไรประเคนให้เสมอ เธอไม่ต้องทำกับข้าวล้างชาม หรือเก็บกวาดบ้านด้วยซ้ำ สามีจัดการให้หมด ขอเพียงเธอแต่งตัวให้สวยงาม หอมฟุ้งให้เขาได้ชื่นใจก็พอแล้วมันช่างต่างกับคนเกิดวันเสาร์เหลือเกินที่ต้องทำเอาเองสารพัด จะได้อะไรก็ต้องใช้ความเพียรของตนเองจนเหนื่อยล้าถึงจะได้มา หากคนวันศุกร์เป็นชายก็จะเจ้าชู้มากเช่นก้น และภรรยาก็มักจะรักจะรักจะหลง ยอมและก็ยอมให้เสมอ ก็สมแล้วที่เกิดมาในวันศุกร์ มันก็ต้องสุขจริง ๆ นั้นแหละ
ข้อควรระวัง คนเกิดวันนี้ อย่าได้ลุ่มหลงกับความสุขจนลืมตัวใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไม่เก็บออม เพราะเกิดวันศุกร์ก็ถือกระลาขอทานได้ หากเราขาดสติให้การใช้จ่ายนะคะ 



ทำนายดวงชะตาของคนเกิดวันเสาร์
คนเกิดวันเสาร์ เข้าข่ายพวกน้ำนิ่งไหลลึก หรือประเภทคมในฝัก และถ้าหากมีอะไรมากระทบกับคนเกิดวันเสาร์ เจ้าชะตาก็จะรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่มักจะเก็บความรู้สึกนั้นไว้เงียบ ๆ ไม่ว่าจะรักหรือชัง เขาก็จะเก็บไว้ ชนิด สิบปีแก้แค้นก็ไม่สาย เพราะฉะนั้นอย่าได้อยากมีเรื่องกับคนเกิดวันเสาร์เป็นอันขาด เพราะคนวันนี้จะมีความแค้นที่ยาวนาน เข้าข่ายประเภทเยือกเย็นเสียด้วย 
ละถ้าคนวันเสาร์รู้ว่าใครเกลียดหรือตำหนิ ก็จะถอยห่างและไม่เข้าใกล้อีกเลย คืออาจไม่ตอบโต้แบบรุ่นแรงและซึ้งหน้า แต่จะถอยห่างออกมา ชนิดคนที่เกลียดเขาอาจเจ็บปวดกว่าด้วยซ้ำ
คนวันเสาร์เป็นคนประเภทรักนาน และเกลียดนานเช่นกัน
เป็นวิตกจริตสูง คิดมาก นั้นเอง เป็นคนพูดจาเฉียบขาด ตรงไปตรงมา กล้าหาญ อดทน ช่างคิด ถือทิฐิแรงกล้า ชอบสันโดษ แต่บางอย่างก็ออกจะชอบแบบฮึก ๆ ถึก ๆ เถื่อน ๆ และโรแมตติกมาก ๆ
การใช้จ่ายเงินคิดก่อนใช้ คำนวณก่อนใช้เสมอ ประหยัดอดออม แต่ก็อยู่ในพวกกล้าได้กล้าเสียด้วยนะ ถ้าคำนวนแล้วว่าไม่เสียเปรียบ ชอบทำการค้า ขายอะไรก็ได้ที่ขว้างหน้า และชอบทำการเกษตร ประเภทไม่มีดินให้ปลูกพืชเพราะอยู่ตึก ก็ขอปลูกใส่กระถางไว้ก่อน ถ้ามือไม่ได้จับดินจับหญ้าประเภทว่านอนไม่ค่อยหลับนะคะ อ้อ แล้วก็ชอบของเก่า ๆมากนะ ประเภทศิลปวัฒนธรรมยิ่งเก่ายิ่งแก่ยิ่งชอบ เครื่องประดับก็ชอบแบบคลาสสิคมากกว่าพวกแสงวูบวาบวิบวับ ชอบแบบขรึบ ๆนะ
อาชีพ ทำการเกษตร การกสิกรรม เลี้ยงสัตว์ สถาปนิก ช่าง
ก่อสร้าง ที่ดิน ค้าของเก่า ป่าไม้ ขายของชำ อิฐ ดิน หิน ปูนทราย งานประเภทต้องใช้ความอดทนทุกชนิด ทหาร ตำรวจ โรงสี โรงเลื่อย อสังหาริมทรัพย์ เหมืองแร่ เหล็กที่เป็นเส้นยาว ๆ
คนที่คนวันเสาร์ควรคบหา คือคนที่ยอมรับคนประเภท ดื้อรั้น โลภโมโทสัน หงุดหงิด ไม่พอใจอะไรได้แบบยาวนาน คิดเล็กคิดน้อย คิดมาก แต่ไม่ยอมพูดยอมจา แต่พูดออกมาทีคนฟังแทบกระอักเลือดได้ ถึงจะอยู่ด้วยได้ทน แบบไม่ต้องทนอดไงละค่ะ แต่ขอบอกนะว่าคนวันเสาร์เขาก็มีดี ตรงที่เขารู้จักเก็บออม จะให้แบมือขอใคร หรือขอความช่วยเหลือจากใคร ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงคนวันนี้จะไม่ทำเป็นอันขาด ขอยืมคนอื่นใช้แล้วไม่คืนก็ไม่มีในคนวันเสาร์ เรียกว่ามีศักดิ์ศรีเรื่องการเงินท่วมท้นทีเดียวและขอดีอีกอย่างคือมักแข็งแรงและอายุยืนมาก(ข้อนี้ไม่รู้ว่าดีหรือเสียสำหรับคู่สมรสนะคะ ล้อเล่นนะ)
ขอจบแค่นี้ก่อนนะคะ ขอให้คนเกิดวันเสาร์ทุกคนโชคดีและมีความร่ำรวย อายุยืนยาวทุกคนนะคะ 

ดวงจรประจำวันเกิด ระหว่างวันที่ 12-30 พ.ย 2556

ดวงจรประจำวันเกิด ระหว่างวันที่ 12-30 พ.ย 2556

คนเกิดวันอาทิตย์..
การเงิน... คุณมีโอกาสที่จะได้เงินก้อนใหญ่จากการเพียรพยายามมาตลอด ถ้าต้องการขายบ้านที่ดินก็จะได้ขาย ถ้าต้องการกู้ธนาคารเพื่อซื้อทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ก็จะสมหวัง ขอทุนก็จะได้ก้อนใหญ่ๆ แต่ต้องมีความเพียรมาก่อนนะคะ และต้องระวังว่ามันจะเป็นทุกขลาภจากการใช้จ่ายเงินหรือการได้รับเงินก้อนใหญ่นี้ สิ่งหนึ่งที่น่าจะมีมาช่วงนี้คุณอาจได้รับมรดกก้อนโตจาการเสียชีวิตของญาติผู้ใหญ่
การงาน.. ช่วงนี้ถ้าเป็นงานเกี่ยวกับครีเอทีฟหรือศิลปินนักแสดงดาราก็จะประสบผลสำเร็จอย่างมาก รวมทั้งพวกเป็นนายหน้าหรือทำบ้านจัดสรร ที่ดินจัดสรร โดยเฉพาะที่อยู่ริมน้ำหรือใกล้แหล่งธรรมชาติจะขายดีเป็นพิเศษ แต่ในการทำสัญญาต้องระวังให้ดีนะคะ
ความรัก... หลังจากที่โหยหาหรือเพียรพยายามมีจะมีรักกับคนดีๆ + รวยๆด้วย ก็คงจะได้พบคราวนี้แหละ เราอาจจะได้พบเขาขณะที่เดินทางไกล แต่จะเป็นคนที่มีอายุหน่อย หากแต่งงานกับเขาแล้ว เรื่องเงินเรื่องทองไม่ต้องห่วง แต่ปัญหาสุขภาพต้องระวังนะคะ


คนเกิดวันจันทร์..
การงาน>>>หากคุณต้องการเริ่มต้นงานหรือกิจการใดๆรวมทั้งการสอบเรียนต่อก็ดูเหมือนจะไปได้ดี แต่ให้ระวังเรื่องอุบัติเหตุใหญ่ๆจากการเดินทางให้ระวังรถเกิดความเสียหานหรืออุบัติเหตุ หรือสอบข้อเขียนผ่านแต่ตกสัมภาษณ์ซึ่งน่าเสียดายยิ่งนัก
การเงิน>>>แรกๆดูเหมือนจะหาเงินได้คล่องแต่ตอนปลายเดือนต้องมีค่าใช้จ่ายสูงอาจจะเสียจากค่าต่อเติมหรือตกแต่งบ้านร้านค้ารวมทั้งซ่อมรถยนต์หรือการเจ็บป่วย หรือแม้แต่เสียเงินจากค่าถูกปรับจากการทะเลาะวิวาทหรือการเกิดอุบัติเหตุ
ความรัก>>ต้นเดือนอาจพบรักใหม่กับคนที่ดูดี มีอันจะกิน ฉลาดเฉลียวแต่ปลายเดือนน่ะสิ ต้องมาทะเลาะกันถึงขนาดแยกย้ายกันไปคนละทาง
วิธีแก้ไขสำหรับคนวันจันทร์ >>ให้ไปบริจาคหลอดไฟ ไฟฉาย ค่าไฟและปลูกต้นไม้ในวัดหรือที่สาธารณะ ก็จะแก้ดวงชะตาที่ร้ายๆได้นะคะ


คนที่เกิดวันอังคาร..
การเงิน>>เข้าข่ายเงินขาดมืออย่างหนัก คนที่เคยทำงานหรือขายของได้เงินมากๆเดือนนี้ให้ระวังรายได้จะเข้าขั้นวิกฤต รายได้น้อยกว่ารายรับมาก การงานก็จะวุ่นวายสับสน มีคนขัดแข้งขัดขา เจ้านายก็คอยชี้นิ้วสั่งเอาๆ โอ้ย!เหนื่อย ถ้าอยากได้รถใหม่ก็มีเกณฑ์ที่จะได้สวยซะด้วยสิ
ความรัก>>ว้าว! คุณจะได้พบกับหนุ่มหล่อสาวสวยที่รวยเสน่ห์เอามากๆ เข้ามาสร้างสัมพันธ์ด้วยทำให้หัวใจชุ่มชื่น โลกเป็นสีชมพูก็คราวนี้ละค่ะ แต่ข้อควรระวัง คนหล่อคนสวยก็มักมีคนอื่นชอบมากเหมือนกัน ครูไม่อยากพูดว่าเขาเหล่านั้นเป็นคนเจ้าชู้ เอาเป็นว่าเขาเป็นคนมีเสน่ห์ก็แล้วกันนะคะ คุณชอบเขาไหมล่ะ ??


คนที่เกิดวันพุธ..
การงาน>>ช่วงนี้หากคุณเป็นเจ้านายเจ้าของกิจการ นักวิชาการ หน้าที่การงานจะมั่นคงและก้าวหน้ามาก หากมีการสอบแข่งขันเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งคุณก็จะเป็นคนที่ขยันอ่านตำรามาก ส่งผลให้คุณจะสามารถสอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้แน่นอน.. ขอแสดงความยินดีล่วงหน้านะคะเจ้านาย
การเงิน>>แม้ว่าจะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งใหญ่โต แต่ด้านการเงินก็ต้องหมุน ต้องหา เพื่อรักษาสมดุลของรายได้กับรายจ่าย เพราะฉะนั้นช่วงนี้เป็นช่วงที่หมุนเงินตัวเป็นเกลียวค่ะ
ความรัก>>หากคุณเป็นราชินี พระราชา ก็จะมาประทับข้างคุณในเร็ววันเช่นเดียวกับ หากคุณเป็นราชา ก็จะมีราชินีผู้รักหน้าที่การงานเข้ามาประทับเคียงข้างเร็วๆนี้เป็นคู่ที่เหมาะสมค่ะ แต่หากมีการแต่งงาน ครูขอให้แต่งแบบถูกต้อง ทั้งประเพณีและกฎหมาย จะทำให้สถานะสมรสของคุณมั่นคงยิ่งขึ้น
เสริมดวง>>สวดมนต์ไหว้พระบ่อยๆ จะทำให้ดวงเจริญรุ่งโรจน์ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้เร็วยิ่งๆขึ้น


คนที่เกิดวันพฤหัสบดี..
การงาน>>ช่วงนี้อำนาจการสั่งการของคุณจะลดพลังอำนาจลง โดยเแพาะพวกลูกน้องที่มีอายุน้อย หรือพวกวุฒิภาวะน้อย ออกจะเกเรดื้อรั้นไม่ฟังคำสั่ง ชวนให้คุณต้องปวดหัว แต่ถ้าคุณอยากเริ่มต้นการเรียนหรือเริ่มต้นงานใหม่ๆก็พอมีโอกาสนะคะ
การเงิน>>รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากงานประจำและงานที่ริเริ่มใหม่ๆแต่ดูเหมือนรายได้จะไม่ค่อยสดใสนะคะ ก็ขอให้ใช้แบบประหยัดๆก็แล้วกัน
ความรัก>>จะได้พบทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ เด็กวัยรุ่นทั้งหญิงและชายที่น่าตาสดใสอยากจะเข้ามาพัวพันแต่อยู่ไม่นานก็จะต้องจากลา เด็กวัยรุ่นก็แบบนี้ละ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ช่วงนี้ครูขอให้มุ่งเรื่องเรียนเรื่องงานมากกว่าเรื่องของความรักเห็นจะดีกว่านะคะ
สุขภาพ>> ระวังโรคปวดหัว ไข้หวัด ภูมิแพ้ และอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ รวมทั้งสัตว์มีเขี้ยวงากัด


คนที่เกิดวันศุกร์..
การงาน>>หากคุณต้องการหางานทำหรือปรับปรุงปรับเปลี่ยน โยกย้ายกิจการงาน ก็ขอให้ทำได้เลย จะเป็นช่วงที่เหมาะสม หากต้องการไปทำงานในแดนไกลก็จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคุณ และจะเป็นช่วงที่เจริญรุ่งเรืองสำหรับคนที่เป็นดารานักร้อง ศิลปิน ครีเอทีฟ รับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว ขายอาหารและครื่องดื่ม ถ้าคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาชีพที่ครูพูดมาก็ขอให้เสริมดวงโดยการเดินทางไปท่องเที่ยวในแดนไกลที่มีบรรยากาศอิงแอบธรรมชาติแทนนะคะ
การเงิน>>ช่วงนี้คุณจะได้นั่งมองเงินที่คุณหามาได้คล้ายๆว่าจะเก็บไว้หรือจะลงทุนต่อดี คุณอาจได้รับการสนับสนุนด้านเงินทองจากผู้หญิงที่มีฐานะดีหรือหากคุณมีปัญหาด้านการเงินก็ขอให้ไปปรึกษากับผู้หญิงที่มีฐานะดี ก็จะช่วยคุณได้ ผู้หญิงคนนี้อาจเป็นญาติ เจ้านาย แต่ต้องเป็นคนที่อยู่เหนือกว่าคุณนะคะ
ความรัก>> ดูจะเงียบเหงาและหว่าเหว่ แม้ว่าเราอยากเดินทางไปหาเขาหรือเขาอยากมาหาเราก็จะทำได้เพียง 70% แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณหรือเขามีคนอื่นนะคะ แต่มันติดๆขัดๆอย่างไรพิกล ก็ขอให้ทนอีกนิด เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วค่ะ


คนเกิดวันเสาร์..
การเงิน... อาจมีโชคลาภหรือเงินทองที่ได้จากการลงทุนอะไรสักอย่าง หรือมีผู้หยิบยื่นเงินให้ใช้จ่ายบ้างแต่ไม่มากนะคะ ก็ขอให้อดทนไปอีกสักระยะหนึ่ง
การงาน... ที่ไปหางานไว้ก็จะสำเร็จเพียง 70% เพราะมันมีปัญหารอบด้าน มีเรื่องให้ต้องแก้ไขและปวดหัว บวกตัวร้อนด้วยนะคะ
ความรัก...ปัญหาต่างๆก็จะรุมเร้าเข้ามารอบด้านยิ่งแก้ยิ่งแน่น ยิ่งดิ้นยิ่งเจ็บ มืดแปดด้าน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี คนที่เราหมายปองเขาเราก็ยังเข้าไปไม่ถึง คนที่แอบมองเราก็เข้ามาหาเราไม่ได้ โอ้ย แล้วมันจะสมหวังสักทีหรือนี่ ใจเย็นๆครูจะบอกวิธีแก้ไขในตอนท้าย
สุขภาพ...ระวังเป็นโรคไมเกรน ปวดหัว เครียด โรคภูมิแพ้หรือโรคประจำตัวจะกลับมาเล่นงานเราได้
วิธีแก้ไขสำหรับคนเกิดวันเสาร์>> 1..ให้ตั้งสติเพื่อต่อสู้กับปัญหา 2.หากมีโอกาสให้บริจาคหนังสือสวดมนต์หรือธรรมะ 4 เล่ม 3.เลี้ยงสัตว์ใหญ่หรือบริจาคเงินช่วยเหลือสัตว์เจ็บป่วย ก็จะสามารถแก้ปัญหาหนักให้กลายเป็นเบาได้ ครูขอให้คนวันเสาร์อดทนมานะต่อปัญหาอุปสรรค ครูคิดว่าคนวันเสาร์ทำได้อยู่แล้วค่ะ






วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตัวอย่างเรียงความ



วันนี้ CT TUTOR ได้รวบรวมตัวอย่างการเขียนเรียงความ ให้ผู้สนใจการเขียนเรียงความ หรือเด็กๆที่กำลังจะเข้าประกวดการเขียนเรียงความ มาให้ศึกษากันนะค่ะ เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะ

ตัวอย่างที่ 1 
เรียงความเรื่อง "แม่ของแผ่นดิน" โดย นางสาวรุ่งนภา ธูปหอม ม.4/1 โรงเรียนนาโบสถ์พิทยาคม อ.วังเจ้า จ.ตาก ได้รางวัลชนะเลิศการประกวดเรียงความ ในงานคอนเสิร์ตรักชาติ วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ณ หอประชุมโรงเรียนผดุงปัญญา
………………………………………………………………………………………………………………..

             แม่คนหนึ่งรักและเลี้ยงดูลูกได้สักกี่คน คำตอบก็คือ ถ้าเป็นลูกของแม่แล้วไม่ว่ากี่คนแม่ก็มีความรักความห่วงใย ความปรารถนาดีให้แก่ลูก ๆ ทุกคนอย่างไม่เอียงเอน พร้อมที่จะเลี้ยงดูลูกเสมอไม่ว่าลูกจะสูงต่ำดำขาว โง่เขลาหรือเฉลียวฉลาด และไม่ว่าลูกจะเติบโตขึ้นเพียงใด แม่ก็ยังคงคอยมองดูและคอยประคับประคองเมื่อลูกก้าวพลาดเสมอ
                โดยทั่วไปแล้ว แม่ธรรมดาคนหนึ่งมีลูกไม่กี่คน อย่างมากก็สิบกว่าคนเท่านั้น แต่เชื่อไหมว่ามีแม่คนหนึ่งที่เลี้ยงลูกได้หลายสิบล้านคนได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มอบความรัก ความห่วงใย ความเสมอภาคเท่าเทียมและความปรารถนาดีแก่ลูกของแม่ทุก ๆ คน แม่คนนี้รักลูกทุกเพศ ทุกวัย ทุกฐานะ ทุกอาชีพ แม่ชื่นชมกับความสำเร็จที่ลูกหลาย ๆ คนได้รับ คอยเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ดูด้วยความปิติยินดี แววตาของแม่เปี่ยมไปด้วยความรักความเอื้ออาทร  เป็นรักที่บริสุทธิ์อย่างถ่องแท้ และเมื่อใดที่ลูกของแม่คนไหนได้รับความทุกข์ความยากลำบาก มีหรือที่แม่นี้จะทนอยู่ได้อย่างเฉยชา เมื่อลูกทุกข์  แม่ก็ทุกข์ด้วย แม่จึงต้องตระเวนไปตามสถานที่ต่าง ๆ ของ "บ้านหลังใหญ่" หลังนี้ให้ทั่วเพื่อดูแลความเป็นอยู่ของลูก หลายครั้งแม่ก็ทำหน้าที่เป็นแม่บุญธรรมรับเลี้ยงลูกของเพื่อนบ้านที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น แม่คนนี้ก็ดูแลลูกบุญธรรมเป็นอย่างดี อุปการะไว้จนเห็นบ้านของเขาสงบดีแล้วจึงจะส่งลูกกลับไป 
                แม่คนนี้จะเป็นใครไม่ได้เลยนอกจาก "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ" พระผู้ทรงเป็น "แม่ของแผ่นดิน" แม่ที่เป็นคู่พระบารมีของพ่อนับตั้งแต่ที่พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระราชินี พระเมตตาของพระองค์ก็ได้แผ่ปกเกล้าเหล่าพระสกนิกรชาวไทยได้อย่างไม่เคยขาด  พระองค์ทรงมอบความรัก ความเมตตาให้กับราษฎรของพระองค์ทุก ๆ คน ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการได้อย่างครบถ้วนอย่างที่แม่คนหนึ่งพึงจะปฏิบัติต่อลูก พระองค์ทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฎรทั่วผืนแผ่นดินไทย พสกนิกรชาวไทยทุกคนจึงศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างลึกซึ้ง  และตอบกลับความรักนั้นไว้ในพระราชหฤทัยและสนองตอบอันเป็นความรักอันบริสุทธิ์กว้างใหญ่ไพศาล มอบแก่ลูก ๆ ทุกคนของพระองค์
                  "จับมือลูกเรียนเขียน ก. ไก่    สอนให้ลูกเป็นคนดีมีเหตุผล
                 จากนั้นลูกของแม่แต่ละคน    จึงรวมตนเป็นชาติที่มีวัฒนธรรม"

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจใหญ่น้อยนานัปการได้อย่างดียิ่งโดยมีเวลา ความศรัทธาและความจงรักภักดีของพสกนิกรไทยเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า พระองค์ทรงปฏิบัติได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง พระองค์ทรงขึ้นเขาลงห้วยไปหาทวยราษฎร์ด้วยพระราชหฤทัยที่มุ่งมั่นในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พสกนิกรที่ทรงเห็นว่ามีความอดอยากยากแค้น ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีอาหารกินให้อิ่มท้อง พระแม่ของคนไทยทรงทักถามความยากลำบากต่าง ๆ และรีบเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างไม่รอช้า เมื่อลูกป่วยแม่ก็พาหมอมาให้ ลูกไม่ได้เรียนหนังสือแม่ก็ส่งเสียให้เรียน ท้องที่กันดารไม่มีครูแม่ก็หาครูมาสอน หรือแม้แต่ลูกไม่มีงานทำ แม่ก็หางานให้โดยทรงเลือกหัตถกรรมให้เป็นอาชีพเสริมการเกษตร ให้โอกาสแก่คนพิการ คนว่างงาน ชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ โดยไม่แบ่งชนชาติไม่แบ่งชั้นวรรณะ และด้วยความเชื่อว่าลูกของแม่เป็นคนไทยที่มีสายเลือดของความเป็นช่างอยู่ทุกคน หากฝึกฝนให้มากขึ้นก็สามารถสร้างผลงานออกมาได้อย่างวิจิตรงดงามเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก  ภายใต้กำลังใจที่แม่มอบให้ แม่ไม้ต้องการให้ลูก ๆ ของแม่เอาแต่พึ่งพาคนอื่น แม่ต้องการให้ลูก ๆ อยู่ได้ด้วยตนเอง โดยแม่เป็นเพียงผู้ชี้ทางสว่างให้  เป็นผู้สั่งสอนอบรมและมอบความรู้ต่าง ๆ ให้แก่ลูก ด้วยหวังให้ลูกสามารถอยู่ร่วมกันได้เป็นและเป็นกำลังที่ยอดเยี่ยมของประเทศชาติต่อไป
                ศูนย์ศิลปาชีพเป็นเพียงหนึ่งสิ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถทรงจัดตั้ง เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ราษฎร เหมือนกับการให้ชีวิตใหม่แก่ราษฎรที่กำลังประสบความทุกข์ยาก แต่ทว่าพระองค์มิได้ทรงทำเพียงเท่านั้นพระองค์ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันใหญ่หลวงอีกนานัปการ อาทิด้านการศึกษาพระองค์ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนให้เยาวชนศึกษาเล่าเรียนตามกำลังความสามารถ จัดตั้งโครงการศาลาร่วมใจซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้วยตนเองของราษฎรตามท้องถิ่นต่าง ๆ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทรงจัดตั้งโครงการสวนสัตว์ป่าเปิดภูเขียวตามพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์พันธ์เต่าทะเล ศูนย์เพาะเลี้ยงและขยายพันธ์สัตว์ป่า โครงการป่ารักน้ำที่พระองค์ทรงตระหนักเห็นความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง  
              ดังพระราชดำรัสที่ว่า "ข้าพเจ้าอาจจะได้ทำหน้าที่เพื่อประชาชนมาแล้วหลายอย่าง แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถทำให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของการรักษาป่า ว่าป่านี้ได้ช่วยพิทักษ์น้ำและเก็บน้ำไว้ในดินเพื่อเรา ก็เหมือนกับข้าพเจ้ายังทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์"  
                 ด้านการศาสนา พระองค์ทรงศรัทธาอุปถัมภ์บำรุงพระบวรพุทธศาสนา ทรงปฏิบัติตนตามแบบอย่างของชาวพุทธอันเป็นแบบอย่างที่ดีและมีค่ามากกว่าคำสอน ส่วนพระราชกรณียกิจด้านสาธารณสุข ทรงจัดตั้งสภากาชาดตามจังหวัดต่าง ๆ ทรงรับคนไข้ผู้ยากไร้ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และพระราชภารกิจอื่น ๆ อีกมากมายที่แม่คนหนึ่งมอบให้แก่ลูกของแม่หลายสิบล้านคน
                แม่มีบทบาทสำคัญในการที่จะทำให้  "บ้านหลังใหญ่" หลังนี้เป็นที่พักพิงทางกายใจอันอบอุ่นและสุขสบายของลูก ๆ ทุกคน โดยจะเห็นได้ว่าทุกคราวที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถเสด็จไปทรงเยี่ยมเหล่าพสกนิกรตามสถานที่ต่าง ๆ ราษฎรจะยอมเดินทางมาไกลหลายสิบหลายร้อยกิโลเมตรและยินดีที่จะรอคอยเพื่อเข้าเฝ้าพระองค์ตั้งแต่เช้า โดยไม่สนใจต่อสภาพภูมิอากาศว่าร้อนหรือหนาวเพียงใด ไม่สนใจว่าพระองค์จะเสด็จมาถึงเมื่อไหร่ เพียงแค่ได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์เพียงชั่วขณะเดียว ได้ยินพระสุรเสียงอันอ่อนโยนที่พระองค์รับสั่งถามว่า "มาคอยนานไหมจ๊ะ" เพียงประโยคเดียวก็ถึงกับทำให้น้ำตาของหลาย ๆ คนไหลอาบแก้มด้วยความตื้นตัน พระองค์ทรงทำลายกำแพงแห่งความสูงส่งทั้งมวลอย่างราบคาบเหลือเพียงความรักความผูกพันระหว่าง "แม่" กับ "ลูก" ที่ไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น
                ความรักความเอื้ออาทรที่แม่คนหนึ่งได้มอบให้ลูกหลายสิบล้านคนอย่างเท่าเทียมไม่เอนเอียง ปลื้มปิติยินดีกับลูกที่ประสบความสำเร็จและพยายามบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ลูก ๆ ที่ยังได้รับความทุกข์ยากด้วย พระราชอัจฉริยภาพอันปราดเปรื่อง ดั่งสายฝนที่โปรยความชุ่มชื่นให้แก่แผ่นดินที่แห้งแล้งให้กับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พระองค์ทรงเป็น "แม่หลวง" เป็น "แม่ของแผ่นดิน" ที่ลูก ๆ กว่าหกสิบล้านคนเคารพรักและภักดีอย่างไม่มีวันเสื่อมคลายไปจากหัวใจของชาวไทยทุกดวง

             "ซาบซึ้งใน  พระองค์    ทรงก่อเกื้อ
             ใต้จดเหนือ    เสด็จเยือน    เลือนทุกข์เข็ญ
             เคยกันดาร    พลันชื่นฉ่ำ    คลายลำเค็ญ
             พระทรงเป็น "แม่หลวง"    ของปวงชน"






 ตัวอย่างที่ 2
รางวัลชนะเลิศ : นางสาวช่อทิพย์ รักธรรม ชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช

โลกร้อนสร้างวิกฤติ วิทย์และเทคโน ช่วยได้
                ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม อันเนื่องมาจากมลพิษ หรือความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งก็ตากย่อมส่งผลกระทบไปถึงที่อื่นๆ ด้วยเหตุนี้ ทุกคนทุกประเทศในโลกจึงย่อมมีส่วนรับผิดชอบอยู่ด้วยกัน ทั้งในการแก้ไข ลดปัญหา และปรับปรุงสร้างเสริมสภาวะแวดล้อม ให้กลับคืนมาสู่สภาพอันจะเอื้อต่อการมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขของตนเองและเพื่อมนุษย์....
                                                                                                (พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)
                จากพระราชดำรัสข้างต้น แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันสภาพแวดล้อมของโลกใบนี้กำลังเปลี่ยนไปจากฝีมือมนุษย์ ไม่ว่าใครเป็นผู้กระทำหรือเกิดขึ้นที่ใด ก็ย่อมส่งผลไปทั่วโลก เช่นเดียวกับภาวะโลกร้อนที่เรากำลังประสบอยู่ทุกวันนี้ อาจเกิดจากความไม่ตั้งใจของมนุษย์ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราทุกคนบนโลกจะต้องช่วยกันหาทางแก้ไข เพื่อให้โลกใบนี้คงอยู่ต่อไป
               
ภาวะโลกร้อนเป็นภาวะที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากปรากฏการณ์เรือนกระจก ซึ่งต้นเหตุทั้งหมดก็มาจากฝีมือมนุษย์ ที่เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงการขนส่ง และการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมรวมไปถึงเพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์และคลอโรฟลูออโรคาร์บอน ก๊าซเหล่านี้คงไม่มีผลกระทบต่อโลกถึงเพียงนี้ ถ้าหากมนุษย์ไม่ไปตัดไม้ทำลายป่า อันเป็นเหตุให้การดึงเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปจากระบบบรรยากาศถูกลดทอนประสิทธิภาพลง ในที่สุดสิ่งที่เรากระทำ ก็ส่งผลมาสู่ตัวเราเอง กับสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องเผชิญต่อภาวะโลกร้อน
               
ภาวะโลกร้อนได้ส่งผลกระทบในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านนิเวศวิทยา อาทิ น้ำแข็งขั้วโลกละลาย สภาพอากาศแปรปรวน อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น อย่างประเทศไทยในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส และมีการคาดการณ์ว่าอีก 90 ปีข้างหน้า อุณหภูมิผิวโลกจะสูงขึ้นจากปัจจุบันราว 4.5 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ภาวะโลกร้อนยังส่งผลกระทบในด้านเศรษฐกิจด้วย เช่น ธุรกิจท่องเที่ยวที่สำคัญบนเกาะเล็กๆของทวีปอเมริกา ต้องสูญเสียรายได้จากการที่น้ำทะเลสูงขึ้นและกัดกร่อนชายฝั่ง หรือจะเป็นทวีปเอเชีย ที่เกิดฝนกระหน่ำและมรสุมอย่างรุนแรง รวมถึงความแห้งแล้งในฤดูร้อนที่ยาวนาน ส่งผลต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจภาวะโลกร้อนยังส่งผลไปถึงสุขภาพของมนุษย์ทั่งโลกอีกด้วยเนื่องจากโลกร้อนเป็นสภาวะที่เชื้อโรคเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
               
โลกในปัจจุบัน เป็นโลกแห่งยุคโลกาภิวัฒน์ มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามากมาย รวมไปถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ หลายคนอาจมองว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โลกใบนี้ต้องประสบกับภาวะโลกร้อน แต่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลับช่วยให้ภาวะโลกร้อนทุเลาลง ผู้สร้างอาจเป็นผู้ทำลายได้ ในขณะเดียวกันผู้ทำลายก็กลายเป็นผู้สร้างได้เช่นกัน เรามาสามารถที่จะทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนได้ ถ้าหากไม่มีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง นักวิทายาศาสตร์ทั่วโลกต่างพยายามศึกษาผลกระทบที่เกิดจากภาวะโลกร้อนเพื่อหาแนวทางบรรเทาและแก้ไขปัญหาดังกล่าว หากไร้ซึ่งพวกเขาเหล่านี้แล้ว ใครกันเล่าที่จะเป็นผู้ช่วยเหลือโลกใบนี้  วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อนได้ หากเรานำมาประยุกต์ใช้อย่างตรงประเด็นและถูกวิธี อาทิการนำสบู่ดำมาผลิตไบโอดีเซล เราต้องใช้กระบวนการวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์ถึงสรรพคุณของสบู่ดำ ว่าสบู่ดำสามารถดัดแปลงมาใช้ประโยชน์ด้านใดได้บ้าง และใช้เทคโนโลยีในกรรมวิธีการผลิตเพื่อให้ได้ผลตามเป้าหมาย นั่นคือ ไบโอดีเซล การนำขยะมาใช้เป็นปุ๋ยหรือนำไปรีไซเคิลก็เช่นเดียวกันต้องใช้วิทยาศาสตร์ในการศึกษาและทดลองว่าขยะแต่ละประเภทสามารถนำไปดัดแปลงเป็นอะไรได้บ้าง และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นตัวแปรรูปหรือผลิต หรือจะเป็นในเรื่องของการผลิตพลังงาน อาทิพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ เช่น การนำน้ำมันปาล์มมาผลิตไบโอดีเซล หรือการหมักพืชอย่างมันสำปะหลังและอ้อยอันนำไปสู่การผลิตแก๊สโซฮอล์ ในการวิจัยสรรพคุณของมันสำปะหลังและอ้อย รวมไปถึงการคิดพัฒนาไปสู่แก๊สโซฮอล์ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และใช้เทคโนโลยีในกระบวนการแปรรูปมันสำปะหลังและอ้อยให้เป็นเอทานอล ก่อนนำไปผลิตเป็นแก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91 ซึ่งสามารถใช้แทนหรือผสมกับน้ำมันเบนซิน 95 และ 91 ได้ แก๊สโซฮอล์เป็นพลังงานสะอาด จะปล่อยมลพิษทางท่อไอเสียต่ำกว่าเบนซินทั่วไป ดังนั้นแก๊สโซฮอล์จึงเป็นผลดีต่อสุขภาพของเรา และช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้
                นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เรายังสามารถนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยสร้างผู้พิทักษ์โลก นั่นก็คือ ต้นไม้ได้อีกด้วย ต้นไม้คือสิ่งเดียวที่ช่วยกลั่นกรองอากาศเสียอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นอากาศดีอย่างออกซิเจนได้ ซึ่งในปัจจุบันจำนวนพื้นที่ป่าของไทยเหลืออยู่เพียง 167,590,98 ตารางกิโลเมตร หรือ 33 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยฟื้นฟู และขยายพันธุ์พืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราต้องใช้วิทยาศาสตร์ในการคิดค้นปรับปรุงพันธุ์พืช ให้ได้พันธ์พืชที่ทนต่อสภาพแวดล้อม มีส่วนในการเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปเป็นก๊าซออกซิเจนที่ค่อนข้างสูง และใช้เทคโนโลยี ในกระบวนการผลิตพันธุ์พืชเพื่อให้ได้พันธุ์พืชที่ดี มีคุณภาพ จะเห็นว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ต้องควบคู่กันไป หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่อาจช่วยบรรเทาโลกร้อนได้
               
ถึงแม้ว่าเราจะมีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการช่วยแก้ไขปัญหาโลกร้อน แต่ผู้ที่เป็นเจ้าแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือ มนุษย์ดังนั้นทุกคนที่อยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้จะต้องร่วมมือกันแก้ไข หยุด ละ เลิก เป็นผู้ทำลาย เพราะสุดท้ายแล้วผลกระทบทั้งหมดก็ตกมาสู่ตัวเราเอง ใช้ประโยชน์จาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในทางที่สร้างสรรค์และคุ้มค่า เพื่อโลกของเราจะได้คงอยู่สืบไป
…………………………………………………………………………………………………………




   ตัวอย่างที่ 3
รางวัลชนะเลิศ  นางสาววรรณี  สังธรรมรอด  นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 1

ทำดีเพื่อพ่อ
                ความดีหน้าตาเป็นอย่างไร  รูปร่างลักษณะเป็นแบบไหน  มีตัวตนหรือไม่ฉันก็ไม่รู้ แต่ที่ฉันรู้  ฉันรู้ว่าความดีไม่เคยทำให้ใครเดือนร้อน  ถ้าคุณไม่เชื่อคุณก็ลองสัมผัสดูซิแล้วคุณจะรู้ว่าความสุขทางใจมันยิ่งใหญ่มหาศาลกว่าวัตถุที่มนุษย์ในปัจจุบันแก่งแย่งกันซะอีก
               
ภาพผู้ชายที่มีอยู่ทุกบ้าน  ภาพที่ดูอบอุ่น  ภาพที่ดูยิ่งใหญ่  ภาพที่ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้เป็นห่วงเรา  ภาพภาพนี้ตอนฉันเด็กๆยังไม่เข้าใจอะไร ฉันจะชอบภาพว่าใครเหรอ  ยายก็จะบอกฉันว่า  นี่คือพ่อของแผ่นดิน  พระองค์ทรงเป็นห่วงและดูแลพสกนิกรพระองค์เสมอ  ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ทำความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสมอมา  ฉันดีใจและภาคภูมิใจมากที่สุดที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินสยามผืนนี้  แผ่นดินที่มีความอุดมสมบรูณ์  แผ่นดินที่มีพ่อคอยดูแลลูกไม่เคยห่าง  ทุกครั้งที่ฉันเห็นพระองค์ทรงงานหนัก  พระองค์ไม่เคยย่อท้อ  ทรงทำงานด้วยพระราชหฤทัยที่เต็มเปี่ยม  ฉันปลาบปลื้มและจะทำดีเหมือนที่พ่อทำแม้จะต่างสถานะ  ต่างชนชั้น  แต่คนเราทุกคนก็ทำความดีได้  การทำความดีมิใช่ว่าทำเป็นครั้งๆ แต่เราควรทำให้สม่ำเสมอ  เพราะผลของความดีจะตอบแทนการกระทำของเราเอง  คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าไม่รู้จักพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ความดีของพระองค์แผ่ขยายไปทั่วโลก  ทุกคนต่างสรรเสริญและยกย่องในความดีของพระองค์  พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดในโลกและทรงงานหนักที่สุด  และไม่ต้องบอกเลยว่าเป็นประชาชนของพระองค์รักและห่วงใยพระองค์ขนานไหน  และสิ่งที่เราชาวไทยทุกคนจะทำดีเพื่อถวายในหลวงนั้น  เราทุกคนสามารถทำได้ทุกคน  แค่สิ่งที่เราทำเป็นประโยชน์และไม่เกิดโทษกับผู้อื่นก็เพียงพอ
               
ฉันเป็นคนไทยคนหนึ่งและเป็นลูกของพ่อ  ฉันจะทำงานในหน้าที่ของฉันด้วยหัวใจ  มิใช่ทำตามหน้าที่เท่านั้น  แม้ว่าสิ่งที่ฉันทำอาจจะดูเล็กน้อยไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากมาย  แต่ฉันก็ภูมิใจที่ได้ทำสิ่งที่พ่อทำ  "ความดี"  ทำให้คนเป็นคนดี  ถ้าไม่เชื่อคุณก็ต้องทำแล้วคุณจะรู้จักกับความดีอย่างแน่นอน


 ตัวอย่างที่ 4
เรียงความเรื่อง ข้าวกับชาวนาไทย
                ท้องทุ่งนาสีทองอร่ามตาทอดยาวไกลสุดขอบฟ้า คุณเคยคิดบ้างหรือไม่ว่ากว่าจะมาเป็นข้าวแต่ละเม็ดให้คุณได้รับประทานในทุกวันนี้ ชาวนาไทยผู้ได้ชื่อว่าเป็น กระดูกสันหลังของชาติต้องลำบากและเสียหยาดเหงื่อมาสักกี่หยดกว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ดมาให้เราได้รับประทานเพื่อประทังชีวิต แต่น้อยคนนักที่จะแลเห็นความสำคัญของพวกเขาเหล่านี้ คุณเคยคิดหรือไม่ว่า ถ้าหากวันหนึ่งไม่มีชาวนาแล้วจะเอาข้าวที่ไหนกิน เราจะอยู่ได้อย่างไร ฉะนั้นวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของ ข้าวแล
               
พื้นแผ่นดินสยามอันงดงามของเราต่างก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าวประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศประกอบอาชีพเกษตรกรรม พื้นนากว่าหกสิบล้านไร่คือแผ่นดินอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษของเราใช้เป็นที่ปลูกข้าวหล่อเลี้ยงชีวิตลูกหลานไทยมาจนถึงทุกวันนี้ คนไทยมีความผูกพันกับอาชีพชาวนา ไม่ว่าเวลาจะเลยผ่านมาเนิ่นนานสักเพียงใด พื้นแผ่นดินไทยก็ยังมีการปลูกข้าวมีการทำนาอยู่เสมอ หลายคนเคยบอกว่า ชาวนาจะทำนาไปทำไมกัน ทำไปก็ไม่รวยยังคงยากจนเช่นเดิม แม้ว่าข้าวจะมีราคาสูงขึ้นสักเพียงใด แต่ชาวนาไทยก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นเลย แต่จะมีใครคิดเล่าว่า ถ้าหากพวกเขาไม่ทำนาแล้ว แล้วเราจะเอาข้าวที่ไหนกิน แม้รายได้จากการขายข้าวจะมีเพียงน้อยนิด แต่คุณค่าของข้าวที่พวกเขาปลูกมันมีค่ามากมายมหาศาล ผู้ใหญ่มักจะบอกให้เด็กๆเห็นคุณค่าของข้าวที่มี ไม่กินทิ้งกินขว้าง และมีคำพูดที่ติดปากบอกกันมาอย่างที่ได้ยินบ่อยๆว่า ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า ผู้คนอดอยาก มีมากหนักหนา สงสารชาวนา เด็กตาดำๆฉันเป็นเด็กต่างจังหวัดย่อมเข้าใจได้ดีว่า วิถีชีวิตการเป็นชาวนานั้นเป็นอย่างไร เมื่อตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันเคยช่วยยายทำนา ตอนนั้นยังไม่รู้อะไรมากนัก แต่จำได้ว่าฉันมีความสุขมากกับการได้ทำนาและเห็นข้าวที่ฉันปลูกเองกับมือนั้นโตขึ้นมาเป็นรวงข้าวสีทองอร่ามตา ในช่วงหน้าหนาวที่ลมหนาวพัดมาก็เป็นการส่งสัญญาณว่าได้เวลาเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ข้าวในนาจะสุกเป็นสีเหลืองทองอร่ามทั่วท้องทุ่ง มองดูแล้วมันทำให้มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ฉันเองแม้ไม่ใช่ชาวนายังมีความสุขได้เพียงนี้ แต่คนที่เขาเป็นชาวนาเขาคงมีความสุขมากกว่าฉันหลายร้อยเท่า นอกจากนี้ฉันยังจำได้ว่า ยายของฉันเคยนำตอซังข้าวมาทำเป็นเครื่องดนตรีเล็กๆ ยายเรียกมันว่า ปี่ซังข้าวซึ่งมันทำให้ฉันมีความสุขและสนุกมาก  แต่ทุกวันนี้ภูมิปัญญาต่างๆได้เริ่มลดเลือนหายไป อาจจะเป็นเพราะคนไทยในทุกวันนี้ได้มองข้ามอาชีพชาวนาและหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน แต่ก็ยังมีประเพณีบางอย่างที่ยังคงหลงเหลือและปฏิบัติกันมาจนถึงทุกวันนี้เช่น ภาคกลางมีประเพณีแห่นางแมวขอฝน ประเพณีแขกเกี่ยวข้าว ประเพณีทำบุญลาน ประเพณีทำขวัญข้าวหรือทำขวัญแม่โพสพ ซึ่งคนไทยเชื่อว่าต้นข้าวมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า แม่โพสพสถิตอยู่ ซึ่งแม่โพสพจะช่วยดูแลให้ต้นข้าวออกรวง แข็งแรง เมล็ดเยอะ ชาวนาจึงเคารพกราบไหว้พระแม่โพสพ นอกจากนี้ภาคอีสานก็ยังมีประเพณีโยนครกโยนสาก ประเพณีบุญข้าวประดับดิน ประเพณีทำบุญข้าวสาก ประเพณีบุญข้าวจี่และที่สำคัญคือ ประเพณีบุญบั้งไฟที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งฉันเองก็เคยได้ร่วมประเพณีเหล่านี้มาบ้างแล้ว ส่วนภาคเหนือก็มีพิธีแฮกนา พิธีทำขวัญข้าวต้น ประเพณีสู่ขวัญควาย ภาคใต้เองก็มีประเพณีสวดนา ประเพณีแรกปักดำ ซึ่งประเพณีที่กล่าวมานี้ต่างก็แสดงให้เห็นว่าคนไทยเรามีความผูกพันกับอาชีพชาวนามาเนิ่นนานแล้วและฉันเองก็เห็นว่า เราควรส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม อาชีพชาวนากันต่อไป ดังกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า ข้าวต้องปลูก เพราะอีก๒0 ปี ประชากรอาจจะ ๘0 ล้านคน ข้าวจะไม่พอ ถ้าลดการปลูกข้าวไปเรื่อยข้าวจะไม่พอ เราจะต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ เรื่องอะไรประชาชนคนไทยจะยอม คนไทยนี้ต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทยจะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราก็ต้องปลูกประเทศไทยของเราได้ชื่อว่าปลูกข้าวได้อร่อยที่สุดและข้าวเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ ฉันไม่อยากเห็นว่าวันหนึ่งจากประเทศที่มีข้าวเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญต้องกลายเป็นว่าไม่มีข้าวกิน ข้าวไม่เพียงพอ เพราะจำนวนชาวนามีน้อยลง ผู้คนหันไปทำอย่างอื่นกันหมด มันอาจจะจริงอยู่ที่การประกอบอาชีพอุตสาหกรรม อาชีพบริการมันมีรายได้สูงกว่าการเป็นชาวนา แต่ถ้าหากไม่มีชาวนา ผู้เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติ ผู้คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนหลายร้อยล้านคนบนโลกนี้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้า จะมีข้าวให้เรากินหรือไม่ มีหลายคนที่ลุกขึ้นมากระตุ้นให้ตระหนักถึงความสำคัญของชาวนา และได้เขียนเรื่องราวความทุกข์ยากของชาวนาเอาไว้ดังพระราชนิพนธ์ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีที่ทรงแปลจากบทกวีของชาวจีนที่ว่า หว่านข้าวในฤดูใบไม้ผลิ ข้าวเมล็ดหนึ่ง จะกลายเป็นหมื่นเมล็ดในฤดูใบไม้ร่วง รอบข้างไม่มีนาที่ไหนทิ้งว่าง แต่ชาวนาก็ยังอดตาย ตอนอาทิตย์เที่ยงวัน ชาวนายังพรวนดิน เหงื่อหยดบนดินภายใต้ต้นข้าว ใครจะรู้บ้างว่าในจานใบนั้น ข้าวแต่ละเม็ดคือความยากแค้นแสนสาหัส
               
 ถึงเวลาแล้วที่วันนี้เราทุกคนต้องหันมากระตุ้นให้ผู้คนเห็นความสำคัญของข้าวและชาวนา ช่วยทำให้กระดูกสันหลังของชาติมีความแข็งแรง เข้มแข็ง ฉันเชื่อว่าประเทศที่มีข้าวคือประเทศที่ไม่มีวันอดตาย  เราโชคดีมากสักเพียงใดแล้วที่เกิดมาในประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าวแล้วเราจะปล่อยให้พื้นแผ่นดินที่เคยปลูกข้าวหล่อเลี้ยงชีวิตของเรามาตั้งแต่อดีตต้องรกร้างว่างเปล่าได้อย่างไรกัน ช่วยกันสิส่งเสริมชาวนาไทยให้มีชีวิตที่ดีขึ้น อย่าให้เมืองไทยเป็นเพียงเมืองที่เคยปลูกข้าว แต่จงทำให้เมืองไทยเป็นดินแดนสีทองเหลืองอร่ามของข้าวต่อไป
               
ข้าวและชาวนาไทยมีความสำคัญกับประเทศไม้แพ้กับอาชีพอื่นๆ เราเองอาจจะเป็นชาวนาหรือไม่เป็นชาวนาก็ตาม แต่ถ้าหากเราแลเห็นและตระหนักถึงความสำคัญของชาวนา รับรู้ถึงความยากลำบากของการปลูกข้าว เข้าใจวิถีชีวิตของคนที่ถูกเรียกขานว่ากระดูกสันหลังของชาติ ข้าวและชาวนาไทยก็จะอยู่คู่สังคมไทยต่อไป

                                
                                                                                                                             นางสาวพัชรี หนองผือ
                                                                                                 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๖โรงเรียนสารวิทยา
                                                                                                                                    
เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร๖       
………………………………………………………………………………………………………………
ตัวอย่างที่ 5
เรียงความเศรษฐกิจพอเพียง เป็นเรียงความของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนธิดานุเคราะห์ ในหัวข้อเรื่อง "ชุมชนของฉันกับวิถีพอเพียง" ซึ่งเป็นรางวัลชนะเลิศ โดยเจ้าของเรียงความ เธอมีชื่อว่า เด็กหญิงพรอิสรา วงศ์สุภาพ ซึ่งเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับสังคมของคนไทยในปัจจุบัน และการนำเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับคนไทยในปัจจุบัน
                เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสแก่ประชาชนชาวไทย ซึ่งเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะแต่การใช้จ่ายอย่างประหยัดเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงการมีชีวิตที่สงบสุขและยั่งยืนอีกด้วย
                ชีวิตความเป็นอยู่ของฉันก็คือวิถีชีวิตของเด็กเมืองธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ผู้ซึ่งต้องตื่นแต่เช้า ฝ่าจราจรอันคับคั่งเพื่อไปโรงเรียน ต้องทนอุดอู้อยู่ในห้องเล็ก ๆ ที่ปิดกั้นมิดชิดเพื่อป้องกันมลพิษ ต้องไปเบียดเสียดกับคนหมู่มากเพื่อซื้ออาหารในโรงงอาหาร ต้องอยู่กับเพื่อน ๆ ที่มีโรคภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัวกันมากมาย และต้องใช้ชีวิตอยู่บนสายป่านแห่งความสำเร็จรูปโดยแท้
                สังคมมนุษย์มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น มีคนมาอยู่ร่วมกันเป็นชุมชน เป็นสังคมมากขึ้น ซึ่งยิ่งต้องมีกฎระเบียบที่สามารถทำให้ทุกคนในสังคมสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันโดยสงบสุข และเราคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน พนักงานบริการ พ่อค้าแม่ค้า เจ้าหน้าที่รัฐ และรวมไปถึงคุณยายสูงอายุที่เดินออกกำลังกายผ่านหน้าบ้านทุกวัน
               
                ปัจจุบันนั้น โลกได้เป็นยุคโลกาภิวัฒน์ เป็นยุคการสื่อสารไร้พรมแดน ทุกคนสามารถเข้าหาข้อมูลได้ในเวลาเดียวกันในแต่ละซีกโลก แต่นั้นก็อาจทำให้ผู้คนได้รับสิ่งใหม่ ค่านิยมใหม่ วัตถุความเจริญ และความทันสมัยใหม่ ๆ ในขณะที่อารยธรรมทางด้านจิตใจและการศึกษายังสั่งสมได้ไม่ถึงขีดสุด ซึ่งบางครั้งการได้รับเอาความเจริญแบบผิดวิธีอาจทำให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี เกิดกระแสการบริโภคที่ไร้ขีดจำกัด มีค่านิยมใหม่ ๆ เกี่ยวกับวัตถุเงินทองมากมาย และลัทธิชื่นชมบูชาผู้ที่ประสบความสำเร็จโดยไม่เลือกวิธีการ เพื่อนของฉันนิยมไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพ พวกเขากล่าวไว้ว่าระบบการเรียนการสอนที่นั่นมีความเพียบพร้อมสมบูรณ์ ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาเหล่านั้นก็กลับจากกรุงเทพฯ โดยมือข้างหนึ่งถือแนวข้อสอบวิชาต่าง ๆ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถือถุงเสื้อผ้ามียี่ห้อจากต่างประเทศ
เพื่อนคนหนึ่งไม่ชอบกินเงาะ มังคุด ลองกอง มะละกอ หรือมะม่วง เพราะให้เหตุผลว่านั่นเป็นผลไม้ที่
บ้านนอกเขาจะเลือกกินแต่แคนตาลูป กีวี กล้วยหอม องุ่น เชอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ และแอปเปิ้ลเท่านั้น  เพื่อนอีกคนเป็นคนตาไว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเครื่องประดับ เสื้อผ้า รูปลักษณ์ รูปร่างของผู้สนทนา หรือผู้ที่เดินสวนทางกับเขา  ตัวอย่างเหล่านี้ เชื่อไหมว่าคือผลพวงอย่างหนึ่งของยุคโลกาภิวัฒน์ที่พัฒนามาเร็วเกินกว่าการสั่งสมทางปัญญาและภูมิต้านทางทางสังคม นั่นเป็นเพียงไม่กี่คนในสังคมที่ข้าพเจ้าอยู่อาศัย ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ทั้งปฏิบัติและไม่เอาอย่างบุคคลข้างต้น อย่างไรก็ดี เมื่อประเทศประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ ภาวะต่าง ๆ ได้เข้ามารุมเร้าผู้คนรอบด้าน ชีวิตมนุษย์ในสังคมเมือง ได้ประสบกับภาวการณ์อันจำเจและไร้ทางออกมากขึ้น ทำให้ผู้คนต่างต้องไขว่คว้าแสวงหาความสุขที่คงทนยั่งยืน
                คนบางคนไม่เคยจับถือสิ่งของหนัก ๆ มาก่อนในชีวิต อาจมีบางช่วงที่ต้องหลบไปปาดน้ำตามที่หลั่งริน เนื่องจากเพราะสภาพเศรษฐกิจอันย่ำแย่และฐานะที่ไม่เหมือนแต่ก่อน คนบางคนที่กรำงานมาเท่าชีวิตก็อาจน้ำตาตกใน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหนี้สินมากมาย และข้าวของราคาสูงกว่าแต่ก่อน เป็นไปได้ไหมที่เขารู้สึกเช่นนั้น เพราะเขาไม่อาจตัดบางสิ่งบางอย่างลงไปได้ ... บางสิ่งที่ไม่จำเป็น ... บางสิ่งที่ถึงไม่มีก็ไม่ทำให้ชีวิตชอกช้ำระกำจิต เมื่อปัญหาต่าง ๆ นานามากเข้า ๆ ผู้คนก็หันไปประหยัดในการใช้จ่ายในการบริโภคมากขึ้น บางคนหันมาใช้รถประหยัดน้ำมันแทนรถประจำตระกูลอันโอ่อ่า บางคนหันมาใช้สบู่สมุนไพรแทนสบู่จากต่างประเทศ และมีบ้างไม่น้อยที่คิดว่าตนน่าจะท่องเที่ยวยามราตรีให้น้อยลง สำหรับของเก่า ๆ แทนที่จะโยนมันลงทิ้งถังขยะเสีย ก็มีการนำออกมาขายให้ผู้ที่รับซื้ออีกต่อหนึ่ง เพื่อนำมันมาแปรรูปแล้วใช้ใหม่ บ้างก็นำมันไปใช้ในด้านอื่น เช่น การนำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้วมาทำเป็นวัสดุรองพื้น เป็นต้น หรืออาจจะมีการนำของเก่าเก็บมาดัดแปลงให้สามารถนำอกมาใช้งานในแง่อื่น เช่น การนำขวดน้ำมาประดิษฐ์เป็นแจกันดอกไม้ เป็นต้น
                นอกจากปัญหาในสังคมจะทำให้ทุกคนมีความระมัดระวังในการจับจ่ายแล้ว ยังทำให้พวกเขาต้องใช้สายตาอันกว้างไกลในการตัดสินใจกระทำสิ่งต่าง ๆ อีกด้วย เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนในอนาคตและที่สำคัญในการใช้ชีวิตที่พอเพียงยังทำให้ผู้คนในชุมชนมีความเอื้ออาทรต่อกัน เมื่อใครมีสิ่งใดที่มากเกินพอดีก็อาจจะนำสิ่งนั้นไปขายหรือบริจาคให้แก่ผู้อื่นอีกต่อ ๆ กันไป ฉันคิดว่าบางทีตาแป๊ะแก่ ๆ ที่ยืนอยู่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเล็ก ๆ อาจมีความสุขมากกว่ามหาเศรษฐีที่ไม่รู้จะนำเงินของตนไปวางไว้ที่ไหนก็ได้... ถ้าเขามีความพอเพียงพอประมาณในตนเอง
                แม้ว่าบางคนในชุมชนอาจมีฐานะไม่ดี แต่ว่าเขามีความพอดี พอประมาณในความต้องการของเขาเหล่านั้น ก็สามารถใช้ชีวิตเฉกเช่นปุถุชนคนหนึ่งที่มีความสุขได้แล้ว  ฉันคิดว่าบางทีความสุขนั้นก็ไม่ได้หมายถึงปริมาณตัวเลขในบัญชี ตำแหน่งการงานหรือฐานะ หากแต่มาจากความสงบนิ่งที่เริ่มจากภายในจิตใจ ถ้าทุกคนมีวิถีชีวิตที่พอเพียง ทั้งสังคมและประเทศชาติก็จะค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ แต่ทว่า...มั่นคงได้ท่ามกลางกระแสธารแห่ง
ทุนนิยม
                                                                                                                                                                                                                           เด็กหญิงพรอิสรา   วงศ์สุภาพ

                 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนธิดานุเคราะห์
                                                                                                                                                                                                                   อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

                                                         

 ตัวอย่างที่ 6




ตัวอย่างที่ 7



ขอบคุณเจ้าของเรื่องความ และผู้เผยแพร่เรียงความ ข้างต้น
เพจ เด็กไทยมั่นใจ AEC
อื่นๆ